SABINA ดัน ‘ดวงดาว มหะนาวานนท์’ นั่งแท่นซีอีโอหญิงคนแรก

เศรษฐกิจ (ในประเทศ - ต่างประเทศ)

ซาบีน่า ประกาศปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่ ตั้ง “ดวงดาว มหะนาวานนท์” ดำรงตำแหน่งซีอีโอหญิงคนแรก แทน “บุญชัย ปัณฑุรอัมพร” ที่จะขึ้นดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการบริหาร มีผลตั้งแต่ 1 ม.ค.2565 ย้ำชัดถึงเวลาเขย่าองค์กรเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลง และสร้างนวัตกรรมใหม่ นำองค์กรไปสู่การเป็น Lean Enterprise

บริษัท ซาบีน่า จำกัด (มหาชน) หรือ SABINA ผู้ผลิตและจำหน่ายชุดชั้นในภายใต้แบรนด์ “ซาบีน่า” เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ในการประชุมเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2564 ได้มีมติแต่งตั้ง น.ส.ดวงดาว มหะนาวานนท์ ให้ดำรงตำแหน่ง “ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร” (ChiefExecutive Officer : CEO) แทนนายบุญชัย ปัณฑุรอัมพร ที่จะดำรงตำแหน่ง “ประธานคณะกรรมการบริหาร” โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2565 เป็นต้นไป

นายบุญชัย ปัณฑุรอัมพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SABINA กล่าวว่า หลังจากเข้ารับตำแหน่งซีอีโอ เมื่อปี 2550 การปรับองค์กรครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 14 ปี ซึ่งหากพิจารณาจากระยะเวลาที่ SABINA ไม่เคยเปลี่ยน “ผู้นำองค์กร” ต้องยอมรับว่า ช่วงเวลานี้เป็นเวลาที่เหมาะสมที่สุดแล้ว โดยเฉพาะภาพใหญ่ที่โลกกำลังเปลี่ยนแปลงไปเข้าสู่ยุคเทคโนโลยีดิจิทัลมากขึ้น ขณะที่ภาพรวมขององค์กรต้องการกำลังของคนรุ่นใหม่เข้ามาเป็นกำลังหลักในการที่จะสร้างการเติบโตให้องค์กรได้อย่างยั่งยืน

“เป้าหมายสำคัญนอกจากเราต้องปรับตัวให้ทันกับสภาพแวดล้อม รวมถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปแล้ว เรายังต้องการสร้าง Successor สร้างความสำเร็จให้องค์กรเป็นลำดับชั้น ส่งต่อเพื่อให้คนรุ่นใหม่เข้ามาต่อยอดความสำเร็จ ซึ่งเชื่อว่าผู้บริหาร SABINA ในรุ่นต่อไป ทั้งคุณดวงดาว ที่จะขึ้นมาดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) รวมถึงคุณพิชชา ธนาลงกรณ์ ที่ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารการตลาด (CMO) ดูแลในส่วนของภาพลักษณ์องค์กร ตลอดจนการตลาดแบบครบวงจรทั้งออนไลน์และออฟไลน์อย่างไร้รอยต่อ จะสร้างความน่าตื่นตาตื่นใจให้ SABINA ที่จะส่งต่อไปถึงพนักงาน ลูกค้า คู่ค้า รวมถึงผู้ถือหุ้นของเราได้อย่างแน่นอน” นายบุญชัย กล่าว

สำหรับงานในตำแหน่ง “ประธานคณะกรรมการบริหาร” ที่จะเริ่มตั้งแต่ปี 2565 นั้น จะเน้นการดูแลส่วนนักลงทุนสัมพันธ์ (Investors Relations : IR) และการสร้างความยั่งยืนของกิจการตามหลัก ESG (Environmental, Social และ Governance) เพราะบริษัทฯ ตระหนักว่าการบริหารจัดการที่ดีต้องการการสื่อสารที่ดี โดยเฉพาะการสื่อสารกับผู้ลงทุน ซึ่งเป็นภารกิจที่สำคัญและเป็นความรับผิดชอบในฐานะบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ส่วนงานด้าน ESG ที่ผ่านมาเป็นงานที่ SABINA ให้ความสำคัญมาตลอด และการปรับโครงสร้างองค์กรให้ครั้งนี้จะทำให้งานด้าน ESG ของบริษัทฯ เข้มแข็งและมีทิศทางที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น

ทางด้าน น.ส.ดวงดาว มหะนาวานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการส่งเสริมธุรกิจ SABINA กล่าวว่า หลังจากเข้ารับตำแหน่ง “ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร” ในเดือนมกราคม 2565 แล้ว ภารกิจแรกจะเป็นการสร้างความชัดเจนในเป้าหมายและทิศทางของบริษัทฯ ให้ทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นบุคลากรภายในองค์กร คู่ค้า ตลอดจนนักลงทุน เพื่อให้ทุกส่วนเข้าใจตรงกันว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้นำไปสู่การขับเคลื่อน SABINA ไปสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนภายใต้สภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างมีนัยสำคัญ

โดยกรอบการทำงานจะอยู่ภายใต้เป้าหมายการดำเนินงานที่แบ่งเป็นเป้าหมายระยะสั้นและเป้าหมายระยาว โดยเป้าหมายระยะสั้น (1-3 ปี) จะวางไว้ในรูปแบบของพันธกิจหรือ Company Mission เพื่อให้เกิดความชัดเจนในการทำงาน และจะมีการวางเป้าหมายย่อยในแต่ละส่วนโดยใช้เครื่องมือในการตั้งเป้าหมายและกำหนดตัววัดผล (OKR : Objective Key Result) เพื่อให้ง่ายต่อการวัดผลและทำงานในการปฏิบัติจริง ซึ่ง OKR ของทุกหน่วยงานในองค์กรจะต้องสอดคล้องกัน เพื่อส่งเสริมให้ OKR ที่เป็นภาพรวมขององค์กรประสบความสำเร็จ ขณะที่เป้าหมายระยะยาวจะถูกวางไว้ในปณิธานและวิสัยทัศน์ของบริษัทฯ หรือ Company Purpose & Vision โดยจะเป็นการวางรากฐานของบริษัทฯ และแบรนด์ เพื่อให้เห็นว่าบริษัทฯ มีความตั้งใจและปรารถนาอย่างแรงกล้าในการดำเนินธุรกิจอย่างไร

“ภารกิจของซีอีโอจะต้องเชื่อมส่วนต่างๆ ให้การดำเนินงานบรรลุเป้าหมายร่วมกัน สามารถสื่อสารและทำให้ทุกส่วนที่เกี่ยวข้องมองเห็นภาพที่ชัดเจนเป็นภาพเดียวกัน เป็นการนำภาพส่วนเล็กๆ มาต่อให้เป็นภาพใหญ่ และจะทำให้ส่วนงานที่รับหรือส่งต่องานให้หน่วยงานอื่นมองเห็นภาพที่กว้างขึ้น นำมาซึ่งการปรับปรุง เปลี่ยนแปลง และเข้าใจกันและกันมากขึ้น (Empathy) รวมถึงลดความขัดแย้งและเพิ่มความรวดเร็วในการทำงาน ทำน้อยแต่ได้มากขึ้นเรียงลำดับความสำคัญในการทำงานทุกอย่าง รวมถึงการพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อให้สอดคล้องกับพันธกิจในการนำบริษัทฯ ไปสู่การเป็น LeanEnterprise ในที่สุด” น.ส.ดวงดาว กล่าว

อย่างไรก็ตาม ภายใต้ความท้าทายดังกล่าว ยังมีปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้ ซึ่งเป็นปัจจัยที่เกิดจากภายนอก โดยเฉพาะการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา แต่ SABINA ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงการรับมือกับปัจจัยที่ไม่คาดคิด รวมถึงการปรับตัวอย่างรวดเร็ว การเปลี่ยนแผนธุรกิจอย่างทันสถานการณ์และยังรักษาความสามารถในการทำกำไรไว้ได้แม้ในภาวะที่ยากลำบากที่สุด ทำให้มั่นใจมากขึ้นว่า หลังจากนี้จะสามารถรับมือกับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดในอนาคต รวมถึงสามารถจำกัดความกลัวและความเสี่ยงจากปัจจัยต่างๆ เหล่านี้เพื่อต่อยอดความสำเร็จและรักษาอัตราการเติบโตของกิจการไว้ได้ต่อไปในอนาคต